ไวเลอตอง, vilertong, สมุนไพรป้องกันโควิด19, สมุนไพรรักษาไวรัสอักเสบ เอ บี, ปอดอักเสบ, เชื้อไวรัส, covid-19,coronavirus, ไวรัส, แบคทีเรีย, สมุนไพรต้านไวรัส, ยาต้านไวรัส

สร้างภูมิคุ้มกัน เกราะกันไวรัส ต้านแบคทีเรีย

ระบบภูมิคุ้มกันเป็นด่านแรกของร่างกายของเรา ที่ป้องกันและกำจัดต่อต้านพวกเชื้อจุลินทรีย์ เช่น ไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อโรคต่างๆ รวมถึงการใช้ในการป้องกันสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย เช่น ระบบทางเดินอาหาร หรือทางเดินอากาศ เช่นในทางเดินหายใจ เวลาหายใจเข้าไปในร่างกาย ระบบทางเดินหายใจส่วนบนจะทำหน้าที่เหมือนเครื่องกรองอากาศ คอยกรองฝุ่นระอองเล็กๆ และสิ่งแปลกปลอมเข้าไป แต่กรณีร่างกายป้องกันไม่ไหวจนเข้าไปสู่ในร่างกายได้ภายในร่างกายก็จะผลิตเม็ดเลือดขาวที่จะคอยรออยู่ในกระแสเลือดของเรา เม็ดเลือดขาวนั้นสร้างโดยไขกระดูกซึ่งทำหน้าที่ในการกำจัดสิ่งแปลกปลอม ระบบแรก คือ การกำจัดแบคทีเรีย และไวรัสและในระบบที่ซับซ้อนต่อมา คือสร้างภูมิคุ้มกันที่คอยทำลายเชื้อโรค

แต่หากร่างกายเราเกิดภาวะ “ภูมิต้านทานต่ำ” หรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง เชื้อโรคสิ่งแปลกปลอมก็จะเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย ทำให้เราป่วยได้บ่อยๆ นั่นเอง หากเมื่อใดที่ร่างกายเกิดภาวะภูมิคุ้มกันต่ำก็จะทำให้เจ็บป่วยได้บ่อย เช่น การเป็นไข้หวัด ท้องเสีย หรือเป็นโรคติดเชื้อราบนผิวหนังบ่อยๆ ซ้ำๆ เช่น กลาก เกลื้อน

ระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ เสี่ยง..เชื้อไวรัส

หากระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ เนื่องจากปัญหาสุขภาพ หรือปัจจัยอื่นๆ มีความเสี่ยงต่อโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน อันได้แก่

  • อาการแพ้หรือโรคหอบหืด หากระบบภูมิคุ้มกันทำงานมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการแพ้ที่รุนแรง หรือ โรคหอบหืดที่รุนแรงมากขึ้นจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
  • ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง หากภูมิคุ้มกันลดลงมากผิดปกติ จะทำให้ผู้ป่วยเสี่ยงต่อโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง และเสี่ยงต่อการติดเชื้อร้ายแรงมากขึ้น หรือการติดเชื้อเพียงเล็กน้อยอาจส่งผลร้ายแรงต่อผู้ป่วยได้ ซึ่งโรคที่อาจพบได้แก่ ปัญหาทางพันธุกรรมซึ่งพบได้น้อย เช่น โรคภูมิคุ้มกันบกพร่องปฐมภูมิ หรือ การติดเชื้อเอชไอวี (HIV) เป็นต้น
  • โรคแพ้ภูมิตัวเอง การทำงานที่ผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันอาจส่งผลร้ายโดยย้อนกลับมาทำลายเซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกายได้ อาจก่อให้เกิดโรคพุ่มพวง (แพ้ภูมิตัวเอง)
  • โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ อันเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อที่ข้อต่อต่างๆ และโรคไทรอยด์ตาโปนซึ่งเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันจู่โจมต่อมไทรอยด์ ซึ่งหากไม่รักษาจะเป็นอันตรายต่อผู้ป่วย

วิธีสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายต้าน ไวรัส

  1. ลดความเครียดสะสม ส่งผลต่การทำงานของเม็ดเลือดขาว เพราะความเครียดจะไปกระตุ้นฮอร์โมนความเครียดที่ชื่อ “คอร์ติซอล” พยายามผ่อนคลายด้วยการดูหนัง ฟังเพลง หรือการทำสมาธิ หรือ งานอดิเรกที่ชอบทำแล้วมีความสุข
  2. การนอนอย่างมีคุณภาพ เมื่อเราพักผ่อนไม่เพียงพอจะทำให้ระดับฮอร์โมนในร่างกาย ความเครียดสูงขึ้น รวมถึงฮอร์โมนของการซ่อมแซมหรือว่า โกรทฮอร์โมนมีระดับต่ำลง เมื่อฮอร์โมนสองตัวนี้ทำหน้าที่แปลกไปก็จะทำให้มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะเม็ดเลือดขาวก็จะลดลงไปด้วย ควรพักผ่อนอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง และนอนก่อนสี่ทุ่ม เพื่อทำให้ภุมิคุ้มกันเราทำงานได้ดีที่สุด
  3. ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพราะน้ำจะช่วยเพิ่มสารคัดหลั่งและความชุ่มชื้นของเยื่อบุผิวในท่อทางเดินหายใจส่วนบน ที่จะช่วยป้องกัน และดักจับฝุ่นละอองหรือเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย
  4. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์ที่มากเกินไป การสูบบุหรี่นั้นมีผลต่อการทำงานของปอดโดยตรง ในส่วนของแอลกอฮอล์ก็เช่นกันที่จะไปลดภูมิคุ้มกันในร่างกายของเราให้ต่ำลง
  5. การออกกำลังกาย เป็นการช่วยเพิ่มการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานอย่างเป็นปกติและมีประสิทธิภาพ
  6. การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งสารอาหารหลายตัวจะมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย อย่างเช่น สังกะสี ธาตุเหล็ก โปรตีน รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเช่น วิตามินเอ วิตามินอี วิตามินซีที่พบในผักและผลไม้หลายชนิด นอกจากนี้ในกลุ่มของเห็ดชิตาเกะ เห็ดไมตาเกะ เห็ดหลินจือ บลูเบอรี่ และกระเทียม เหล่านี้ก็จะช่วยการทำงานของเม็ดเลือดขาวดีขึ้น
  7. จุลินทรีย์สุขภาพ (โพรไบโอติกส์) และอาหารสำหรับจุนลินทรีย์สุขภาพ (พรีไบโอติกส์) ช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย โดยแหล่งอาหารที่ดีมีจุลินทรีย์สุขภาพ ได้แก่ โยเกิร์ต และนมเปรี้ยวที่ระบุไว้ว่ามีการเติม โพรไบโอติกส์ แต่ควรเลือกที่น้ำตาลต่ำ สำหรับอาหารสำหรับจุลินทรีย์สุขภาพ ส่วนใหญ่แล้วอยู่ในแหล่งอาหารที่มีใยอาหารสูง เช่น ธัญพืช ข้าวโอ๊ต ถั่วเมล็ดแห้ง กล้วย หัวหอมใหญ่
  8. ล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ ควรล้างมือก่อนการปรุงอาหาร และก่อนรับประทานอาหาร รวมไปถึงล้างมือหลังจากหยิบจับสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ธนบัตร และสิ่งของสาธารณะที่มีคนใช้บริการจำนวนมาก เพื่อป้องกันการได้รับเชื้อโรคต่างๆ เข้าสู่ร่างกาย

สมุนไพรช่วยต้าน ไวรัส เสริมภูิมคุ้มกัน

  • ขมิ้นชัน สารสำคัญสามารถแย่งจับไวรัสจะเข้าสู่เซลล์ปอดและมีผลยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส
  • พลูคาว หรือผักคาวตอง มีผลการวิจัยว่าลดฤทธิ์เชื้อไวรัส มีรูทิน โคซิทิน และช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน
  • ขิง ฤทธิ์ต้านไวรัส ไข้หวัดใหญ่ ช่วยยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส
  • ตะไคร้ ฤทธิ์ต้านการไอ และใช้คลายเครียด และช่วยยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส
  • กระชาย ใช้การไอแห้งและแก้หวัด พบว่าสารสำคัญที่พบสามารถแย่งจับและช่วยการแบ่งตัวของไวรัส
  • พริก ยาขับเสมหะทีดีมาก อาหารเหมาะกับการฟื้นฟูปอด และระบบทางเดินหายใจ และช่วยยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส
  • พริกไทย นิยมใช้แก้ปวด เพิ่มการไหลเวียนโลหิต มีฤทธิ์ต้านไวรัสไขหวัดใหญ่ ต้านซึมเศร้า ต้านการแพ้ ยับยั้งการหลั่งสารสื่ออักเสบ
  • กระเพรา แก้ปวดหัว คลายเครียด มีฤทธิ์ต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ มีผลยับยั้งเอนไซม์ของไวรัส และควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส
  • ชาเขียว มีสารกลุ่มโพลีฟีนอลมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ และปรับภูมิคุ้มกัน และช่วยการแบ่งตัวของไวรัส
  • กระเทียม เสริมสร้างการทำงานของภูมิคุ้มกันโดยกำเนิด และภูมิคุ้มกันแบบจำเพาะ มีฤทธิ์ต้านไวรัส และช่วยยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส
  • มะขามป้อม เป็นยาแก้ไอ ละลายเสมหะ หลอดลมอักเสบ วัณโรคปอด ช่วยส่งเสริมการทำงานของ NK Cell มีฤทธิ์ยับยั้งกระบวนการอักเสบ และช่วยยับยั้งการสร้างและการแบ่งตัวของเชื้อซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญในการเพิ่มจำนวนของไวรัส
  • มะระขี้นก สารสกัดโปรตีนจากผลสุกมะระขี้นกมีฤทธิ์ต้านไวรัส ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอหลายชนิด เช่น H1N1, H3N2 N5N1 น้ำคั้นมะระขี้นกมีฤทธิ์เสริมการทำงานของภูมิคุ้มกัน

พลูคาว หรือผักคาวตอง ต้านไวรัส

ผักคาวตอง หรือพลูคาว ( Houttuynia cordata Thumb) เป็นไม้ล้มลุกยื้นต้นที่เติบโตในป่าในสถานที่ชื้น และร่มรื่น ในประเทศแถบเอเซีย ได้แก่ ไทย จีน ญี่ปุ่น และอินเดีย HCT มีฤทธิ์ต้านไวรัส ต้านเชื้อแบคทีเรีย สร้างภูมิคุ้มกัน และต้านการอักเสบอื่นๆ ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมและการแพทย์พื้นบ้าน ในช่วง 2 – 5ปีที่ผ่านมามีการศึกษาชี้ให้เห็นว่า HCT สามารถใช้ได้ในทางการแพทย์ในการรักษาโรคต่างๆ กลไกกการต่อต้านการอักเสบของ HCT มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับเซลล์อักเสบ โดยเฉพาะเซลล์ที่หลั่ง “ไซโตไคน์” นอกจากนี้ยังมีการอธิบายผลต้าน ไวรัส ต้านเชื้อแบคทีเรีย และภูมิคุ้มกันของ HCT อีกด้วย

ประโยชน์ของคาวตอง หรือ พลูคาว

  1. ลดอาการแบ่งตัวไวรัสภายในเซลล์
  2. มีฤทธิ์ช่วยบำบัดฟื้นฟู โรคความดันโลหิตสูง
  3. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
  4. ลดอาการอักเสบ
  5. ต้านเชื้อแบคทีเรีย
  6. มีฤทธิ์ในการต่อต้านมะเร็ง ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
  7. ป้องกันไวรัสเข้าเซลล์
  8. รักษาโรคติดเชื้อ และทางเดินหายใจ
  9. บำรุงปอด

** เหมาะกับผู้ที่ต้องการ DETOX ล้างพิษออกจากร่างกาย ป้องกันโรคร้ายช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้นทำให้โรคต่างๆ มีอาการดีขึ้นและหายจากอาการของโรคร้ายต่างๆ ได้ในที่สุด อย่ามัวรอ ถ้าภูมิต้านทานไม่พอ ก็ต้องเสริมด้วย Vilertong ผลิตภัณฑ์สารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ 3 ชนิด ได้แก่ คาวตอง เคอร์คูมินอยด์ จากขมิ้นชัน และใบหม่อน เสริมภูิมคุ้มกันร่างกายให้แข็งแกร่ง ต้องเสริมด้วย ผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดคาวตองเข้มข้นคุณภาพสูง มีงานวิจัยรองรับ ปลอดภัย ด้วยมาตรฐานการผลิตระดับสากล มี อย. รับรอง

ไวรัส, แบคทีเรีย, เชื้อโรค, เชื้อมะเร็ง, ไวเลอตอง, หลอดลมอักเสบ, vilertong, สมุนไพรรักษาปอด, สมุนไพรรักษาไวรัสตับอักเสบ เอ บี, ปอดอักเสบ, เชื้อไวรัส, covid-19,coronavirus, พลูคาว, ไวเลอตองเพิ่มภูมิคุมกัน, Vilertongสรรพคุณ

สมุนไพรพลูคาว หรือคาวตอง ต้านไวรัสและแบคทีเรีย ผลิตภัณฑ์สารสกดัดจากคาวตองคุณภาพสูง เสริมภูมิต้านทานให้ร่างกายแข็งแรง