ดร.ณสพน โพธิ์วิจิตร ประธานบริหาร ซีซีไอ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และ บริษัท ดีท็อกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ศึกษาค้นคว้าหาความลับในความเป็นสุดยอดของสมุนไพรไทยมาเป็นเวลายาวนานกว่า 30 ปี ท่านได้จัดตั้ง บริษัท ดีท็อกซ์ (ประเทศไทย)จำกัด ขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2542 เริ่มต้นด้วยการผลิตถุงดีท็อกซ์ออกจำหน่ายทดแทนการนำเข้าเป็นรายแรกของประเทศไทย สร้างผลงานค้นคว้าวิจัยงานนวัตกรรมต่างๆ  อีกมากมาย ต่อมาได้ขยายโรงงานทำเครื่องดื่มสมุนไพรเมื่อปี พ.ศ.2547 ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วจากผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นด้วยการวิจัยสมุนไพรซึ่งเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง มีความต้องการของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศสูงขึ้นมาก จึงได้ขยายโรงงานวางแผนก่อสร้างภายใต้มาตรฐาน GMP เมื่อปี พ.ศ.2557 พัฒนางานวิจัยต่อเนื่องต่อยอดธุรกิจ อาจเป็ฯความโชคดีที่ตั้งใจมั่น มีความเพียรพยายามอย่างสูงที่ยอมรับและเป็นที่รักของ Professor ชาวญี่ปุ่นเป็นอาจารย์ผู้สอนตอนเรียนปริญญาเอก ปรมาจารย์ด้านสมุนไพรที่มีความสามารถระดับโลก ดร.โยจิ พร้อมกับผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติมากกว่า 500 ฉบับและผลงานลิขสิทธิ์อีกว่า 250 เรื่อง จนมีโอกาสร่วมงานวิจัยกับท่านจึงทำให้งานวิจัยสมุนไพรไทยก้าวกระโดดสู่ระดับสากล โดยเน้นงานวิจัยผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม NCDs (์Non Communicable Disease) หรือโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง อันเป็นความเสื่อมของร่างกายมนุษย์ เช่น โรคเบาหวาน กรดไหลย้อน ข้อเข่าเสื่อม หรือข้อเข่าอักเสบ โรคต่อมลูกหมากโต โรควัยทอง โรคภูมิแพ้ เป็นต้น โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้ทั้งหมดใช้สมุนไพรเป็นวัตถุดิบหลักนำมาศึกษา แล้วสกัดจนได้สารสำคัญตรงตามโรคมีการควบคุมคุณภาพวัตถุดิบโดย อาศัยเทคโนโลยีใหม่ จึงทำให้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้รับการยอมรับจากลูกค้าทั้งชาวไทย และช่างต่างประเทศอย่างรวดเร็ว ต่อมาบริษัทฯ ได้นำผลิตภัณฑ์และ ผลงานวิจัยไปประกวด บนเวทีการประกวดในระดับโลก ยิ่งกว่านั้นในปี 2018 บริษัทได้ขยายโรงงาน ผลิตสารสกัดสมุนไพร และที่สำคัญยิ่งคือ โรงงานผลิตยาตามมาตรฐาน GMP, HACCP, HALAL, CODEX

นอกจากนี้ บริษัท ได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการ สุขภาพแห่งชาติ (สช.) ผลักดันนโยบาย “สานพลังประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก” โดยการส่งเสริมให้เกษตรกรเปลี่ยนการทำนาอย่างดียวมาปลูกสมุนไพรเพิ่มเติม เพื่อส่งให้กับบริษัทสำหรับเป็นวัตถุดิบเริ่มต้นในทำผลิตภัณฑ์ ประเทศของเราก็จะสามารถต่อยอดงานวิจัยใช้สมุนไพรสร้างรายได้เข้าประเทศและที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการได้รับภาระกิจอันทรงเกียรติจากสำนักงาน นวัตกรรมแห่งชาติ (NIA : National Innovation Agency) มอบทุนสนับสนุนต่อยอด งานวิจัย สารสกัดขมิ้นชันที่ละลายน้ำได้มากขึ้นและส่งไปประกวดแข่งขันในเวทีระดับโลก เพื่อพัฒนาผลงาน ทั้งยังสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย และสร้างแรงจูงใจในการใช้ สมุนไพรไทยให้มากขึ้นทั่วโลก

วัตถุประสงค์หลักของ CCI มี 4 ประการ ดังนี้

1. เพื่อสร้างนวัตกรรมงานวิจัยสมุนไพรของคนไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
2. เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรไทย ทำการเพาะปลูกพืชสมุนไพรไทยที่มีคุณภาพสูงเพียงพอต่อการนำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถดูแลสุขภาพผู้คนทั่วโลก
3. เพื่อการดำเนินะธุรกิจที่สามารถสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ประชาชนฐานรากผู้สนใจตลอดนักธุรกิจ ได้รับโอกาสในการประกอบธุรกรรมทางการตลาดร่วมกันอย่างกว้างขวางส่งผลให้เกิดการหมุนเวียนเงินในระบบเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
4. เพื่อสร้างธุรกิจสีขาวโดยยึดหลักการธรรมาภิบาล บริหารงานด้วยความดีความถูกต้องและความเป็นธรรมเป็นที่ตั้