กรดไหลย้อนกับการนอน เกี่ยวข้องกันอย่างไร
“กรดไหลย้อน” เชื่อว่าคนไทยหลายคนน่าจะรู้จักหรืออาจจะกำลังเป็นโรคนี้อยู่ บางคนก็ไม่มั่นใจว่าตัวเองนั้นเป็นโรคนี้หรือไม่ เนื่องจากไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงที่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่หากปล่อยทิ้งไว้จนเรื้อรังก็สามารถทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงที่น่ากังวลได้ และทำไม กรดไหลย้อนกับการนอน ถึงเข้ามามีปัญหากับเราได้
การรักษาโรคกรดไหลย้อนในปัจจุบัน
การแพทย์ในอดีตจะใช้วิธีการรักษาด้วยการปรับยาไปเรื่อย ๆ แต่ปัจจุบันแพทย์สามารถวินิจฉัยโรคกรดไหลย้อนได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการช่วยใน เรื่องวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสมและทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยจะใช้วิธีที่เรียกว่า “การตรวจวัดกรดหรือน้ำย่อยที่ไหลย้อนเข้ามาหลอดอาหารตลอด 24 ชั่วโมง” และสามารถทราบผลได้ทันทีหลังการตรวจว่าอาการที่เป็นอยู่นั้นคือโรคกรดไหลย้อนใช่หรือไม่
วิธีดังกล่าวยังใช้ในการติดตามอาการและผลการรักษาของผู้ป่วยที่เป็นกรดไหลย้อนอยู่แล้วได้อีกด้วย แต่ผู้ป่วยควรรับประทานยาลดกรดตามที่แพทย์แนะนำเท่านั้น ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง เพราะยาประเภทนี้มีหลากหลายชนิดที่อาจทำให้รักษาไม่หายแล้วเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง
หลายคนคงเคยประสบปัญหาอาการนอนไม่หลับ หรือหลับไม่สบายตลอดทั้งคืนเพราะอาการปวดท้อง ซึ่งอาการบางอย่างนั้น ทรมานจนทำให้ตื่นกลางดึก บางคนถึงกับต้องนั่งหลับเพื่อให้รู้สึกปวดน้อยลงเลยก็มี ซึ่งการนอนไม่หลับนี่ล่ะที่จะส่งผลให้อาการหายช้าหรือหนักกว่าเดิม แต่เลิกกังวลกันได้เลย เพราะวันนี้เราจะแนะนำทุกคนกับท่านอนที่ช่วยบรรเทากรดไหลย้อน
โรคกรดไหลย้อนกับท่าการนอน
หลายคนอาจจะสงสัยว่าท่าการนอนนั้นมีความสัมพันธ์กับ โรคกรดไหลย้อน ได้อย่างไร ซึ่งทางการแพทย์ได้ออกมาไขข้อข้องใจแล้วว่ามีส่วนเกี่ยวข้องจริง ถ้าเรานอนราบแบบหัวต่ำหลังรับประทานอาหารภายใน 3 ชั่วโมง จะเป็นการเพิ่มโอกาสการเกิดโรคกรดไหลย้อนมากขึ้น เนื่องจากกรดและอาหารยังคงค้างอยู่ที่กระเพาะอาหาร ทำให้สามารถไหลย้อนกลับมายังหลอดอาหารได้
เพราะถุงเก็บอาหารในกระเพาะจะอยู่ทางด้านซ้าย เมื่อเรานอนตะแคงซ้าย ถุงจะย้อยลงรูเปิดหลอดอาหารที่ลงไปยังกระเพาะจะอยู่เหนือระดับกรดและอาหารที่อยู่ในกระเพาะ ฉะนั้นกรดจึงจะไม่ไหลย้อนขึ้นมา แต่เมื่อใดก็ตามที่เรานอนตะแคงขวา รูเปิดหลอดอาหารจะอยู่ต่ำกว่าระดับของกรดและอาหารในกระเพาะ ทำให้สามารถย้อนกลับมาได้ ซึ่งทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อนมากขึ้นนั่นเอง
สำหรับคำถามที่ว่าควรจะนอนท่าใด ตะแคงซ้ายหรือตะแคงขวานั้น ด้วยเหตุที่ถุงเก็บอาหารในกระเพาะอาหารอยู่ทางด้านซ้าย เมื่อเรานอนตะแคงทางซ้ายก็จะทำให้ถุงย้อยลงแล้วรูเปิดหลอดอาหารที่ลงไปยังกระเพาะอาหาร จะอยู่เหนือระดับอาหารและกรดที่อยู่ในกระเพาะอาหาร ฉะนั้นกรดจึงไม่ไหลย้อนขึ้นมา
แต่หากเรานอนตะแคงด้านขวาก็จะส่งผลให้รูเปิดหลอดอาหารอยู่ต่ำกว่าระดับของอาหารและกรดในของกระเพาะอาหาร ทำให้กรดสามารถไหลย้อนกลับขึ้นมาจนกลายเป็นภาวะกรดไหลย้อนนั่นเอง ดังนั้นเราจึงควรนอนตะแคงซ้ายและนอนยกหัวสูง รวมทั้งไม่ควรทานก่อนนอนมากเกินไปและหลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นให้เกิดกรดไหลย้อน เช่น อาหารรสจัด อาหารมัน ๆ น้ำผลไม้ เช่น ส้ม องุ่น มะเขือเทศ ชา กาแฟ และน้ำอัดลม เครื่องดื่มชุกำลัง เป็นต้น
โรคกรดไหลย้อนมักจะมีอาการเป็น ๆ หาย ๆ อันเป็นผลมาจากหูรูดกระเพาะอาหารทำงานได้ไม่ดี บางรายอาจมีอาการอยู่นาน ในขณะที่อีกรายนั้นเป็นน้อยมาก แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับอาการของแต่ละบุคคลว่าเป็นมากหรือน้อย
อย่างไรก็ตาม เราควรนั่งพักอย่างน้อย 3-4 ชั่วโมงเพื่อย่อยอาหารให้เสร็งก่อน แล้วจึงจะนอนได้ หรือหากง่วงนอนจริงๆ สามารถนอนให้ท่านั่ง เพื่อป้องกันปัญหาจากโรคกรดไหลย้อน รวมถึงปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ผู้ที่มีอาการจากโรคกรดไหย้อนควรได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง และควรดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง เพราะอวัยะภายในของเรานั้นหากเสื่อมสภาพไปแล้ว อาจไม่สามารถรักษาให้กลับมาเหมือนเดิมได้ 100%
ปรับพฤติกรรมเพื่อ…พิชิต กรดไหลย้อน
เรียบเรียงโดย : herbd4health