รับมืออย่างไรเมื่อมีอาการ วัยทอง
วัยทอง ผู้หญิงนอกจากจะมีเรื่องของประจำเดือนที่มากวนใจทุกเดือนแล้ว สิ่งหนึ่งที่จะสร้างความกังวลใจให้กับผู้หญิงอย่างเราได้คือ อาการวัยทอง เป็นอาการที่ผู้หญิงหลายคนหรือแทยทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง ผู้หญิงบางคนอาจเริ่มมีอาการประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอเลือดออกกะปริกะปรอย หรือประจำเดือนมามากกว่าปกติ ไปจนถึงการไม่ประจำเดือนแล้ว หรือที่เรียกกันว่า วัยหมดประจำเดือน โดยส่วนใหญ่อาการวัยทองในผู้หญิงนั้น จะเกิดขึ้นในช่วงอายุ 40 – 59 ปี เป็นผลมาจากความผิดปกติของฮอร์โมนความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนจะเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ตั้งแต่ช่วงกลางๆ อายุ 30 ซึ่งแต่ละคนนั้นอาจเกิดขึ้นไม่พร้อมกัน จะอยู่ระหว่างวัยเจริญพันธ์ุและวัยผู้สูงอายุ เป็นวัยที่ผลิตฮอร์โมนเพศลดน้อยลงจนเกิดการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย และมีโอกาสเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพได้ง่าย
อาการวัยทองแบ่งออกเป็นกี่ระยะ
อาการวัยทอง หรืออาการของวัยหมดประจำเดือน เป็นวัยที่มีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง เนื่องจากรังไข่หยุดทำงาน ซึ่งทำให้สิ้นสุดการมีประจำเดือนอย่างถาวร และเกิดการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยา โดยแบ่งออกเป็น 3 ระยะ
- ระยะก่อนหมดประจำเดือน (Perimenopause) เป็นระยะเริ่มของการหมดประจำเดือนทำให้มีประจำเดือนมาผิดปกติ ร่วมกับมีอาการทางร่าง เช่น ร้อนวูบวาบ มึนศรีษะ อ่อนเพลีย อารมณ์จะแปรปรวน ซึ่งระยะนี้จะเกิดประมาณ 2-3 ปี
- ระยะหมดประจำเดือน (Menopause) เป็นระยะที่เริ่มตั้งแต่การหมดประจำเดือนมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี
- ระยะหลังหมดประจำเดือน (Postmenopause) เป็นระยะที่เริ่มตั้งแต่หลังหมดประจำเดือนมาแล้ว 1 ปี ซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้แก่ ช่องคลอดตีบแคบ กระดูกพรุน และเกิดภาวะแทรกซ้อนของโรคต่างๆได้ง่าย
อาการวัยทอง มีลักษณะอย่างไร
เรารู้ถึงสาเหตุของภาวะวัยทองแล้ว ความสำคัญต่อมาคือการทำความรู้จักกับอาการวัยทอง ว่ามีลักษณะอย่างไร เพื่อที่จะได้หาวิธีรับมือ และวิธีดูแลตัวเองเมื่ออาการเหล่านั้นเกิดขึ้น แบ่งออกเป็นอาการระยะสั้น และ อาการระยะยาว
อาการระยะสั้น
- ประจำเดือนมาไม่ปกต มาติดกันหรือห่างจากกันมาก บางรายอาจมีเลือดออกผิดปกติ
- อาการร้อนวูบวาบ
- นอนไม่หลับ อันเป็นผลของอาการร้อนวูบวาบ
- เกิดอาการซึมเศร้า อารมณ์หงุดหงิด โมโหง่าย มีความวิตกกังวล
- ช่องคลอดแห้ง มีปัญหาในการร่วมเพศ มีอาการคัน อาการอักเสบของช่องคลอด มดลู และช่องคลอดหย่อน ความต้องการทางเพศลดลง
- โอกาสมีลูกน้อยลง และไม่สามารถมีลูกได้อย่างถาวร หลังประจำเดือนไม่มาเต็ม 1 ปี
- ผิวหนังเหี่ยวแห้ง ขาดความยืดหยุ่นเป็นแผล และกระได้ง่าย
- เต้านมเล็กลง หย่อน ไม่เต่งตึง
อาการระยะยาว
- ระบบหัวใจและหลอดเลือด หลังหมดประจำเดือนร่างกายจะมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันมากขึ้น เนื่องจากการขาดเอสโตรเจน เพราะฮอร์โมนเอสโตรเจนทำหน้าที่สำคัญในการลดไขมันไม่ดี LDL
- กระดูกพรุน การขาดเอสดตรเจนของวัยหมดประจำเดือนจะทำให้มีการทำลายเนื้อกระดูกมากขึ้น จนอาจทำให้เกิดเป็นโรคกระดูกพรุนได้ โดยเฉพาะบริเวณกระดูกสันหลัง กระดูกข้อมือ และกระดูกสะโพก
- ปัญหาทางเดินปัสสาวะ เมื่อระดับกระดูกสันหลังลดลงทำให้เยื่อบุผนังท่อปัสสาวะหย่อนยาน ทำให้มีอาการแสบร้อนขณะปัสสาวะ และมีอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
- น้ำหนักขึ้นและเริ่มอ้วน เป็นผลมาจากการลดระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนทำให้มีผลต่อระบบเผาผลาญอาหาร ทำให้มีการสะสมไขมันบริเวณหน้าท้องมากขึ้น
การเตรียมตัวเข้าสู่ วัยทอง
อาการวัยทอง จะเกิดขึ้นกับผุ้หญิงที่อยู่ในช่วงอายุ 40-59 ปี ดังนั้นสุขภาพสตรีที่กำลังอยู่ในช่วงอายุดังกล่าว จึงหมั่นสังเกตอาการของตัวเองว่ามีอกาารเข้าข่ายที่เปนสตรีวัยทองแล้วหรือไม่ และถ้ามีอาการควรทำอย่างไรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์มีส่วนทำให้รังไข่เกิดความผิดปกติได้สูงมาก และยังส่งผลต่อการขาดฮอร์โมนในร่างกาย เสี่ยงต่อการทำให้เป็นหมัน ระบบสืบพันธุ์ไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และภาวะหมดประจำเดือนอาจมาเร็วกว่าปกติ19
ทานอาหารที่ช่วยป้องกันภาวะกระดูกพรุน ให้ทานอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดี เนื่องจากอาหารทั้งสองชนิดนี้มีส่วนช่วยป้องกันภาวะกระดูกพรุน เพราะร่างกายที่เข้าสู่ช่วงใกล้หมดประจำเดือน เสี่ยงต่อการสูญเสียมวลกระดูกของร่างกาย
ทานอาหารที่ช่วยบรรเทาอาการหลังหมดประจำเดือน อาหารที่ได้รับการวิจัยแล้วว่ามีส่วนช่วยอาการหลังหมดประจำเดือนได้เป็นอย่างดีคือ ผักใบเขียว ธัญพืชไม่ผ่านการแปรรูป ซีเรียล ขนมปัง และพาสต้า ส่วนอาการที่ควรหลีกเลี่ยงเพราะมีฤทธิ์ในการกระตุ้นอาการหนังหมดประจำเดือน ให้มีความรุนแรงมากขึ้นก็คือ น้ำอัดลมและช็อกโกแลต งดอาหารจำพวกของมัน ของทอด เพิ่มสารอาหารประเภทเส้นใยจากผัก และผลไม้แทน
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควรออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาทีแต่สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อเลือกการออกกำลังกายที่เหมาะสม
พักผ่อนอย่างจริงจัง ควรหาเวลาพักผ่อนจากงานประจำที่ทำอยู่ และออกไปทำกิจกรรมต่างๆที่ตนเองชอบเพื่อผ่อนคลายความเครียด
พูดคุยเรื่องความสัมพันธ์ คู่สมรส หรือคู่สามีภรรยาควรมีการพูดคุยกันในปัญหาด้านเพศสัมพันธ์ที่ไม่เหมือนเดิม เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกัน
ตรวจสุขภาพประจำปี โดยหลักๆ เลยก็ควรที่จะได้รับการตรวจสุขภาพในเบื้องต้น เช่น การวัดความดันโลหิต การตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ และอุจจาระ ในผู้หญิงเราอาจมีตรวจเต้านมและตรวจภายใน รวมทั้งเช็คมะเร็งปากมดลูก
การดูแลสุขภาพเมื่อเข้าสู่วัยทอง
อาการวัยทอง ไม่ใช่อาการที่ร้ายแรงแต่นับว่าสร้างปัญหาในการใช้ชีวิตอยู่พอสมควร ดังนั้นการดูแลสุขภาพของคนที่เข้าสู่วัยทองจึงต้องมีควมพิถีพิถันเป็นพิเศษ เพราะเมื่ออายุมากขึ้นการเกิดโรคภัยต่างๆก็เป็นเรื่องใกล้ตัว การดูแลสุขภาพสตรีวัยทอง มีข้อสำคัญดังนี้
- รับประทานอาหารประเภทแคลเซียมเพิ่มขึ้น เช่น ผักใบเขียวทุกชนิด งาขาว งาดำ นม กุ้งแห้ง กุ้งฝอย ปลาเล็กปลาน้อย และอาหารที่มีไฟโตเอสโตรเจน ได้แก่ ถั่วเหลือง น้ำเต้าหู้ ถั่วแดง ฟักทอง กะหล่ำปลี บรอคโคลี่ แครอท ข้าวกล้อง เพื่อปัองกันโรคกระดูกพรุนและช่วยลดโอกาเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม
- งดหรือลดอาหารประเภทแป้ง อาหารมัน อาหารทอด อาหารเค็ม น้ำหวาน ชา กาแฟ หรืออาหารที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน เพราะอาจทำใหมีอารณ์แปรปรวน และกระวนกระวายมากขึ้น รวมทั้งงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่
- เลือกออกกำลังกายอย่างเหมาะสม เช่น เดินเร็ว ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ โยคะ หรือกีฬาที่ชื่นชอบ เมื่ออายุมากขึ้น ไม่ควรออกกำลังกายแบบโลดโผนหรือที่ต้องใช้แรงกระแทรกโดยเฉพาะข้อเข่า หรือการออกกำลังกายที่ทำให้เข่ารับน้ำหนักมากจนเกินไป เพราะอาจเป็นสาเหตุทำให้ข้อเข่าเสื่อมได้
- นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ควรเข้านอนให้เป็นเวลา และนอนหลับพักผ่อนอย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง เพราะจะช่วยเพิ่มความจำ และทำให้มีสุขภาพที่ดีมีอายุยืนยาว
- การรู้จักผ่อนคลายความเครียดอย่างเหมาะสม ฝึกทำจิตใจให้สบาย ฝึกจิตให้สงบนั่งสมาธิเมื่อมีเวลาว่าง พยายามอย่างเครียดเพราะความเครียดจะส่งผลเสียทั้งต่อตัวเองและผู้คนรอบข้าง
การใช้ฮอร์โมนทดแทนในผู้หมดประจำเดือน
การรักษาโดยใช้ฮอร์โมนทดแทนแพทย์จะแนะนำให้ผู้หญิงที่มีอาการวัยทอง ได้แก่ อาการร้อนวูบวาบ เหงื่อออกมากตอนกลางคืน นอนไม่หลับและช่องคลอดแห้ง หรือเพื่อป้องกันปัญหาระยะาวที่จะเกิดขึ้นได้ ในผู้หญิงวัยทองหรือวัยหมดประจำเดือน นั่นคือ ภาวะกระดูกพรุน
ซึ่งการใช้ฮอร์โมนทดแทนไม่ได้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนทุกคนเพียงแค่เราปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิตประจำวันด้วยการรับประทานอาหารที่เหมาะสม อาหารที่มีกากใยมากแต่ไขมันน้อย และออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เราก็สามารถที่จะใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข
ประโยชน์การใช้ฮอร์โมนทดแทน
- ป้องกันโรคกระดูกพรุน
- ป้องกันโรคหัวใจ
- ลดอาการของวัยทอง ร้อนตามตัวและมีเหงื่อออก
- ลดปัญหาช่องคลอดแห้งและคันเนื่องจากการขาดเอสโตรเจน
- ลดอาการปัสสาวะเล็ด
- ลดอาการอารมณ์แปรปรวน
ผลเสียของการใช้ฮอร์โมนทดแทน
- เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งมดลูก เกิดจากการรับประทานฮอร์โมนที่มีแต่เอสโตรเจน พบว่าหากรับประทานขนาดสูง และเป็นเวลานานมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งมดลูกจะเพิ่มขึ้น
- มะเร็งเต้านม มีหลักฐานยืนยันว่ารับประทานฮอร์โมนเอสโตรเจนขนาดสูง และเป็นเวลานานถึง 10-15ปี จะเสี่ยงต่อกาารเป็นมะเร็งเต้านม
- นิ่วในถุงน้ำดี ฮอร์โมนจะทำให้เกิดนิ่วในถุงน้ำดีดังนั้นผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในถุงน้ำดีควร จะหลีกเลี่ยงหากจำเป็นต้องใช้ควรเลือกใช้ชนิดปิดหรือทาแทน
ดูแลสุขภาพทางเลือกด้วยสมุนไพร ที่ทดแทนฮอร์โมน
กรีนเพอร่า GreenPurra นวัตกรรมงานวิจัย รวมสารสกัดจากสมุนไพรสูงค่าจากธรรมชาติ เพื่อดูแลภาวะอาการวัยทองของสุขภาพสตรี เพื่อปรับสมดุลฮอร์โมน สำหรับผู้หญิงวัยทอง 40+ โดยนักวิจัยคนไทยคนเก่งที่สามารถสกัดเอาสารสำคัญจากสมุนไพรเพื่อใช้เป็นฮอร์โมนทดแทนในเพศหญิง สารไอโซฟราโวน ในถั่วเหลือง และสารสกัดจาก กราวเครือขาวจีน มาร่วมทำงานด้วยกันจึงช่วยส่งเสริมการสร้างฮอร์โมน เอสโตรเจน (Estrogen) ของเพศหญิงได้กลับมาปกติ ลดปัญหาอาการวัยทอง คืนความสาวอย่างเป็นธรรมชาติ
👉กดดูข้อมูลผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร กรีนเพอร่า พลัส
สมุนไพรแก้อาการวัยอาการ ปรับสมดุลฮอร์โมน ลดอาการร้อนวูบวาบ